รุ่งเช้าวันที่ 23 พ.ค. 55
เตรียมเสื้อผ้าชุดฤๅษีมาสวมใส่ไม่ลืมถือย่ามแดงพอเป็นเอกลักษณ์ มองดูมาดพอสมควร ไม่ลืมบอกคุณจุ้ยเก็บซีดีที่จะเอาไปแจกให้มากที่สุด เสร็จสรรพ แล้วพากันไปทานอาหารเช้าที่โรงแรมสวัสดีบางกอกลำภู เครือเดียวกัน อาหารเช้ากาแฟขนมปังแผ่น ไข่ดาว อิ่มท้องแล้ว เดินตัดถนนผ่านช้าง ๔ เศียรไปสนามหลวงร่วมงานพุทธยันตี 2600 ปี เห็นขบวนแห่พระพบมสารีริกธาตุ มีผู้คนมาร่วมงานมากมายหลายขบวนดูแล้วชื่นใจในศรัทธาชาวพุทธที่มีต่อพระพุทธศาสนา
ในเต็นซ์ของอโรคยศาล หะแรกคิดกันในที่ประชุมว่า ฤาษีต้องมานั่งต้มยาจริงๆ ทำพิธีให้เห็นว่า ผู้ป่วยที่มารับการรักษามะเร็งต้องผ่านพิธีกรรมการรักษาทางจิตวิญญาณไปด้วย พร้อมกับต้องผูกข้อไม้ข้อมือให้ทุกคนที่มาชมบูช
ภาพปิดทองหลังพระ ผลงานของหลานพี่หมู เรียนอยู่ชั้นประถมปีที่ 3 |
บางจังหวะก็คว้าไมค์มาพูดอธิบายบรรยาย บางจังหวะก็ชี้แจงให้จิตอาสาที่มาแบ่งงานกันเชิญชวนผู้ชมที่มาชมงาน ได้มีความรู้เข้าใจในงานของ อโรคยศาล สถานที่ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งแบบให้เปล่าด้วยธรรมะโอสถบำบัดเมตตาของพระพุทธองค์ บางจังหวะก็มานั่งภาวนาสมาธิ เจริญพระคาถาจริงๆ ที่ประตูทางเข้า คราวนี้หละเป็นเรื่อง พวกมนุษย์ประหลาดทั้งหลายได้วัตถุมงคลจากไหนก็ไม่รู้เดินเข้ามากราบหมับ ๆ พูดภาษาประหลาดฟังไม่เข้าใจ บางคนขึ้นรถยนต์จากอยุทธยาบอกลงรถเมล์แล้วก็ตรงมานี่เลย
บางคนก็ได้ข่าวจากเน็ตก็จะมาหาให้ช่วยบอกอะไรสักหน่อยพอสบายใจ บางคนก็ขอร่วมบริจาคเงินแต่ อโรคยศาลไม่เน้นการบริจาค ต้องการให้ธรรมะไปสู่จิตใจคนเหมือนที่พระพุทธองค์สอน เลยต้องอธิบายว่า ถ้าอยากจะบริจาคต้องเดินเข้าไปหาตู้บริจาคที่แอบไว้ข้างใน (เลยเห็นสีหน้างงๆ ของผู้คนที่อยากบริจาค อย่างนี้ก็มีด้วย) บางคนอายุจะเข้า ๗๐ ปีแล้ว มาถึงเห็นหนังสือ "จิตวิญญาณอโรคยศาล" ที่ฤาษีเขียนและมอบให้ฟรี ก็ขอติดต่อพรรคพวกเพื่อจะเอาไปพิมพ์มาถวายที่อโรคยศาล ดีมาก ขออนุโมทนา
ในบูชของอโรคอศาล มีจิตอาสาที่มาร่วมงาน อาทิ..โรงเรียนภัทรเวช อาจารย์พัฒน์พาเพื่อนมานวดรักษา คณะแพทย์แผนไทย วัดโพธิ์สาขาขอนแก่น เอามือฉมังระดับอาจารย์มาด้วยหลายท่าน มีคุณหมอฉวีลักษณ์ ภักดิ์เจริญ , หมอสมบัติ และอื่น ๆ
ฝนตกก็ไม่ถอย นวดตากฝนริมสนามหลวง ครั้งแรกของโลก โพ้ดๆๆ จั่งหวะ |
เอ้าโหย่มเข้าไป จัดกระดูกหลัง ขนาดของฟรี ยังนวดดีปานนี้ เอาเงินให้บอกว่า ไปใส่ตู้บริจาค สุดย้อดๆๆ |
ตอนเย็นนัดกับทีมงานที่ให้ความเคารพท่านฤาษี จึงนัดมารับทานอาหารเย็นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ร้านต้นโพธิ์เดิม ท่าพระอาทิตย์ซอย 13 สถานที่ที่เคยมารับทานหลายปีก่อน อาหารอร่อยบ้าง แพงบ้าง ถูกบ้าง ก็ให้พิจารณาเป็นธรรมะไปหมด เห็นเรือล่องเจ้าพระยา ชมบรรยากาศแล้วก็คิดถึงความหลังหลายปีก่อนเคยขึ้นไปทานอาหารเย็นแบบนี้มาทุกลำเรือ ที่เห็นอยู่นี้ดูเป็นลำใหม่ของใครไม่รู้
อิ่มอาหารแล้วก็เดินย่ำกรุงชมแสงแสงยามราตรี ย่ำถิ่นเก่าบางลำภู ดูไม่เปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ ที่วัดสังเวชเคยมาทาน ก๊วยเตี๋ยวสุโขทัย เห็นโกดังโรงงานเก่าขององค์การค้าคุรุสภาที่เคยมาศึกษาฝึกงานเมื่อปี 2530 เห็นเจดีย์ร้างริมทาง มองดูแล้วไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง แต่คนเปลี่ยนไปตามอายุขัยและกาลเวลา กลางคืนแสงสีดูดีเพลินตา สุดท้ายทะลุมาที่ร้านนวดเท้าเจ้าเก่าเมื่อวาน เลยเข้าไปแก้สงสัยคนละชั่วโมงก่อนแยกย้ายกลับไปนอน
เช้าวันที่ 30 พ.ค. 55
หลังจากรับประทานอาหารที่โรงแรมสไตร์ฝรั่งขนมปัง 2 แผ่น ไข่ดาว 2 ฟอง กาแฟ 1 แก้วเสร็จ วันนี้มีจิตอาสาเป็นคุณหมอแพทย์ทางเลือกมือหนึ่ง มาร่วมใจตรวจธาตุเจ้าเรือน และทำความสะอาดขูดพิษแบบคัวซา
มีผู้คนมาร่วมชมนิทรรศการและรักษาเข้าคิวมากมาย หลายท่านก็รู้จักกัน บางท่านก็พาเพื่อนมาดูดวง บางคนก็เกิดปาฏิหาริย์ขึ้นในจิตใจ บางคนก็มาหาธรรมะ ต้องการบริจาคช่วยก็มี
ฤๅษีดูดวงคนแก้ปัญหาทุกข์ใจตั้งแต่เช้าจรดบ่ายหกโมงเย็น สารพัดจนเห็นทุกข์ของบุคคล แต่ก็แก้ไขปัญหาด้วยจิตเมตตาปรารถนาดี พี่ ๆ หลายคนจากสำนักนายก ต้องเอาข้าวของอาหารขนมผลไม้ดอกไม้มาฝาก ขอบพระคุณอย่างมากขอรับ
ที่มาจากอยุทธยาเป็นวันเกิดของเธอมาทำบุญ รอตั้งแต่เช้าจนเย็นจึงได้คุยกัน พร้อมเขียนยันต์ลงธนบัตรเขมรที่เอามาจากเสียมเรียบให้คนละ 1 ใบ สงเคราะห์มนุษย์ไป อาม่าหลายท่านจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมานั่งสนทนาด้วยได้ความรู้สนุกสนานดีมาก
ตอนเย็นย่ำค่ำแล้วเดินกลับจากเต็นซ์งานมาโรงแรมที่พัก ดูอาการเจ็บคอชักกำเริบเลยแวะซื้อยาแก้เจ็บคอ ยาอมหลายแผง เภสัชกรคนสวยยังหงายมือขอให้ดูดวงเรื่องเนื้อคู่เลย ....555
อาบน้ำที่โรงแรมเปลี่ยนชุดใหม่สะพายย่ามแดง ทีมงานมารับพาเดินย่ำถนนข้าวสารได้ผัดไทกุ้งสดมารองท้องจานละ 50 บาท คุยกับฝรั่งที่มาและแม่ค้าที่ขายสนุกดี มองภาพชีวิตออกเลยหละ ทุกคนตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากิน เกิดเป็นคนต้องสู้ดิ้นรนกันไป เกิดมามีแต่ทุกข์ทั้งนั้น
ย่ำราตรีดูแสงสีไปถ่ายรูปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ชีวิตไม่เคยหยุดนิ่ง ถึง ร้านศรแดงเมธาวาลัย เจ้าเก่าที่เคยมาทานเมื่อหลายปีก่อน แวะเข้าไประลึกความหลังฟังนักร้องรุ่นเก่า เสียงไพเราะดีมากๆ อาหารรสชาติอร่อยลิ้น จนถึง 5 ทุ่มแยกย้ายกันไปนอน
แล้วภาระกิจพุทธยันตีบูชา
ก็เสร็จสิ้นลงตามกำหนดเวลาที่วางไว้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น