วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2555

ตอนที่ ๘ เป้าโหล


                       เบ้าโหล
                 หลังจากร่ำลาญาติพี่น้องตระกูลผู่เรียบร้อยแล้ว  พากันขึ้นรถตู้ออกมาเส้นทางใหม่เป็นบรรยากาศท้องทุ่งนาเขียวขจี ดูแล้วสดชื่นหัวใจ ระหว่างทางเห็นป้ายหินบอกทางเข้าหมู่บ้าน ดูแล้วเป็นเอกลักษณ์ดีมาก ใช้เวลาเป็นพันปีก็ไม่เสียหาย และไม่ต้องกลัวสิ้นเปลืองเงินทองไปทำป้ายโลหะแบบเมืองไทย ป้ายหนึ่งไม่ต่ำกว่าห้าพันถึงหมื่นบาท       งบประมาณที่ตั้งไว้ก็สูญเสียไปเพราะการทำป้ายปีหนึ่งๆ ไม่ใช่น้อย  ป้ายที่ใหหนำทำทีเดียวเสร็จเลยไม่ต้องไปยุ่งอีก ไม่ต้องกลัวใครจะมายกไปเล่น  ที่สำคัญยังบ่งบอกเอกลักษณ์ของหมู่บ้านได้ด้วย



 






        รถตู้ของเราบึ่งไปตำบลเบ้าโหล   เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่  ที่หมู่บ้านนี้ เป็นสถานที่ที่ท่านประธาน  คือ ก๋งอารีย์ผูกพันมาก  เพราะเป็นบ้านของบรรพบุรุษท่าน  หลังจากสงครามในประเทศจีนสิ้นสุดลง  รัฐบาลจีนได้ผ่อนปรนให้ลูกหลานขอคืนไปทำการก่อสร้างเป็นกรรมสิทธิได้   ท่านจึงได้ทำเรื่องขอบ้านคืนจากรัฐบาล  โดยการช่วยเหลือจากเพื่อนพ้องน้องพี่  ซึ่งเป็นเรื่องที่ปาฎิหาริย์มาก  เมื่อได้สิทธิ์แล้วท่านได้สร้างใหม่จำนวน สิบห้อง เพื่อให้คนเช่า และให้เอาค่าเช่ามาทำการกุศลเพื่อบูรณะโรงเรียนหรือกิจการในหมู่บ้าน  ให้หลานชายท่านดูแลเป็นผู้จัดการแทน


หมู่บ้านเป้าโหล ที่ท่านประธานอารีย์
ขอที่ดินคืนจากรัฐบาลจีน แล้วสร้างอาคารให้เช่า
เพื่อเอาดอกผลไปบำรุงการศึกษาของโรงเรียน
ในรูป  โหง่วคนยิ้มซ้อนมอเตอร์ไซด์หลานชายก๋งอารีย์นำทางคณะทัวส์

บรรยากาศภายในหมู่บ้านเป้าโหล




สภาพอาคารเป็นแบบใหม่และเก่าปนกัน



อาคารเก่าแก่ตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีที่แล้ว

คนนี้จำก๋งอารีย์ได้  เข้ามาทักทาย  บอกว่า ตอนเด็กเห็นกันอยู่ 
มาเจอกันอีกครั้งก็อายุมากกันแล้ว



ท่านประธานอารีย์และเลขานุการตระกูลผู่สากล
มาดูบ้านที่กำลังก่อสร้าง 
พร้อมทักทายคนเก่าแก่ที่รู้จักกัน

ป้ายอธิบายที่มาของการก่อสร้างอาคาร
เพื่อสาธารณะกุศลของตระกูลผู่




คุณประสาท เข้าไปดูการพักผ่อนของผู้อาวุโส
เพื่อเอามาเป็นแบบเตรียมตัวเป็นผู้อาวุโสบ้าง 55



ขอถ่ายกับผู้ดูแลสถานที่พักผ่อนของผู้อาวุโส 
นัยว่าแก้อันไซด์เมอร์ดีนัก



สังเกตุดูจะเห็นชมรมผู้สูงอายุเหล่านี้
 ผ่อนคลายดีนักแล

รถบรรทุกวัสดุก่อสร้างมีขนาดเล็กเข้าตรอกซอกซอยได้ง่าย



นี่ก็วัยรุ่นพนักงานขนวัสดุกำลังเพิ่มพลัง
ผ่อนคลายด้วยยาเส้นดูดใส่บ้องดีนักแลเหมือนกัน 
  บ้องนี่ดูคุ้นตาพี่ไทยนะ 



กุมาราจีน แอบดูคนจีนลูกผสมในไทย


คณะแรกของเมืองไทยละมั้ง ที่ได้ไปถ่ายรูปกับบ้านประวัติศาสตร์หลังนี้
สองท่านซ้ายมือ เป็นประธานและเลขามูลนิธิแซ่ผู่สากล
คุณศิริพร - คุณประสาท ตงศิริ  ก๋งอารีย์  ปิคกี้  ป๋าปรีชา  แนตตี้

ชมรมพยัคฆ์ภูเพ็ก ขวามือก็ไปกับเขาน้อ 55
                

            หลังจากดูการก่อสร้างอาคารหลังนี้และทักทายผู้รู้จักกันพอสมควรแล้ว  มีอีกสิ่งหนึ่งที่ท่านประธาน  ก๋งอารีย์ภาคภูมิใจในชีวิตมาก คือ  โรงเรียนโบคง   ซึ่งเรากำลังจะพากันไปดูผลงานของ ตระกูลผู่ ณ บัดนี้.....